วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ระบบข้อมูลการจัดการการศึกษา


ระบบข้อมูลการจัดการการศึกษา (Education management information system) มีเป้าหมายเพื่อรวบรวม บูรณาการ ประมวลผล รักษา และเผยแพร่ข้อมูลและข้อมูลเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ การวิเคราะห์นโยบายและการกำหนด การวางแผน การเฝ้าติดตาม และการจัดการในทุกระดับของระบบการศึกษา เป็นระบบของบุคคล ควรได้รับการออกแบบตามบริบทและความต้องการของระบบการศึกษาที่แตกต่างกัน ไม่มีการกำหนดค่า ระบบข้อมูลการจัดการการศึกษา (Education management information system) ใดที่จะใช้ได้กับระบบการศึกษาทั้งหมด บริบทและความต้องการเหล่านี้จะถูกจับได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อหน่วยการศึกษาส่วนกลางพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหน่วยการศึกษาที่กระจายอำนาจเช่น สำนักงานเขตและโรงเรียน

วัตถุประสงค์ของ ระบบข้อมูลการจัดการการศึกษา (Education management information system) คือการผลิตข้อมูลที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ และทันเวลา เพื่อเพิ่มการใช้ข้อมูลการศึกษาเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการศึกษา เพื่อให้เป็นประโยชน์ ข้อมูล ระบบข้อมูลการจัดการการศึกษา (Education management information system) ควรถูกดัดแปลงและทำให้เข้าถึงได้ในทุกระดับ สามารถอำนวยความสะดวกและทำให้การจัดการและการทำธุรกรรมรายวันที่จำเป็นสำหรับระบบการศึกษามีประสิทธิภาพ  และประสิทธิผลมากขึ้น ไม่เพียงแต่ในสำนักงานบริหารส่วนของเขตพื้นที่การศึกษาหรือระดับภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในโรงเรียนด้วย 

ในแง่ของการจัดการและการบริหาร ระบบสารข้อมูลการจัดการการศึกษา (Education management information system) สามารถช่วยให้ผู้อำนวยการโรงเรียนคำนวณ หรือประเมินสถานการณ์การบริหารจัดการเพื่อการวางแผนในอนาคต  และทราบจุดแข็งและจุดที่ต้องแก้ไขของตน  เมื่อเทียบกับโรงเรียนอื่นๆ ในเขตเดียวกัน   เมื่อรวมกันแล้ว ข้อมูลนี้สามารถช่วยกำหนดปัจจัยที่ส่งผลถึงคุณภาพการศึกษาในระดับโรงเรียน  ซึ่งสามารถแจ้งกระบวนการวางแผนและกำหนดนโยบาย  กล่าวคือ สามารถช่วยให้ต้นสังกัดตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่ จังหวัด สพฐ. จนถึงรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการระบุทรัพยากรที่จำเป็น  ในการจัดตั้งโครงการเพื่อสนับสนุนงบประมาณที่ตรงกับความต้องการของโรงเรียน และสอดคล้องกับนโยบาย

ระบบข้อมูลการจัดการการศึกษา (Education management information system) จะต้องเป็นระบบที่คล่องตัวพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการข้อมูลในปัจจุบันของระบบการศึกษา ในขณะเดียวกันก็คาดการณ์ความต้องการในอนาคตด้วย เป็นสิ่งสำคัญที่ระบบข้อมูลจะต้องปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในวาระการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ



วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565

PAPA

 ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ข้อมูลส่วนบุคคล" ตามกฎหมาย

​"เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล" 

"ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมหรือ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


"ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล


ธุรกิจ-องค์กร ต่างๆ จะอยู่ฐานะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีอยู่ให้ไม่ละเมิดสิทธิของลูกค้า และได้รับความยินยอมตามกฎหมายก่อน


การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลหรือลูกค้า 

- ต้องได้รับความยินยอมก่อน หรือขณะเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

- ต้องทำโดยชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

- ต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

- ต้องแยกส่วน ใช้ภาษาที่อ่านง่าย และไม่เป็นการหลอกลวง

- มีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอม

- ถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิ

การฝ่าฝืน PDPA มีบทลงโทษ ดังนี้

รับผิดทางแพ่ง

ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายที่ได้รับจริง และศาลสั่งลงโทษเพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน 2 เท่าของสินไหมทดแทน


โทษทางปกครอง

- ไม่ขอความยินยอมให้ถูกต้อง ไม่แจ้งรายละเอียดให้เจ้าของข้อมูลทราบ ไม่ให้เจ้าขอข้อมูลเข้าถึงตามสิทธิ ฯลฯ ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท

- เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากฐานทางกฎหมาย ปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท

- เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท


โทษอาญา

- ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย เสียชื่อเสีย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท

- เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น จำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน  1 ล้านบาท

- ล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.บ. นี้ ห้ามนำไปเผยแพร่แก่ผู้อื่น (เว้นแต่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย) จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท

ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้กระทำความผิด เป็นนิติบุคคล หากกรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลที่ได้รับผิดชอบ สั่งการหรือกระทำหรือละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทำ จนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระทำความผิด ต้องรับโทษในคดีอาญานั้นไว้ด้วย